จะมีสักกี่คนที่สามารถนั่งบนม้านั่งสำรองโดยที่ไม่เคยปริปากบ่น หรือกล่าวออกสื่อเลย ทั้ง ๆ ที่โอกาสในการลงตัวจริงนั้นแทบจะไม่มีเลย ถ้าพูดถึงเช่นนี้แฟนบอลทุกคนก็จะคิดถึง อดีตนักเตะ และกุนซือ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง “โอเล่กุนนาร์ โซลชาร์”
ในอาชีพการค้าแข้งของเขาที่จะถูกภาพจำให้เป็น “ซูเปอร์ซัพ” ของทีมเสมอ เวลา 11 ผู้เล่นตัวจริงไม่สามารถทำอะไรได้ ก็จะเป็นเขานั่นละที่ลงมายิงประตูให้ทีมตลอด
เฉกเช่นเดียวกันที่ทีมอย่างลิเวอร์พูลก็มีนักเตะตำแหน่งนี้อยู่ในทีมนั่นก็คือ “ดิวอก โอริกี” ซึ่งในเกมล่าสุดเขาก็ได้พิสูจน์อีกแล้วว่า เขาเนี่ยแหละผู้เปลี่ยนผลการแข่งขันของจริง
โดยเขาลงมาในสนามเพียง 120 วินาที สะกิดบอลส่งให้ ”ซาลาห์” ชิพไปเสาสองให้ รอบโบ โขกเข้าไป ต่อมาเขาขึ้นมาโหม่งปิดบัญชี เอฟเวอร์ตัน ในนาทีที่ 85 เก็บ 3 แต้มสำคัญให้กับทีม
มันไม่ใช่แค่นัดนี้ เขาทำแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ เขาเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่เปลี่ยนตัวลงมายิงมากที่สุด 10 ประตู แซงหน้า จอมเต้นอย่าง “แดเนียล สเตอริดจ์” เรียบร้อย
“เมื่อใดก็ตามที่ทีมต้องการเขา….เขาจะอยู่ตรงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างทีทีมของเราทำได้ในครึ่งหลัง ถ้าไม่มี โอริกี้ เราก็ไม่ชนะเกมนี้” คล็อปป์เริ่มกล่าวถึง โอริกิ
“เขาเป็นตำนานทั้งใน และนอกสนาม เขาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม และผมรู้ดีว่ามันแปลกที่ผมไม่ได้ส่งเขาลงสนามบ่อยนัก สมควรแล้วที่ทุกคน ๆ รัก โอริกิ เป็นอีกครั้งที่เขาเป็นคนตัดสินเกม ผมมีความสุขแทนเขามาก ๆ”
“เราคงคิดถึง ดิวอก โอริกี หากเขาย้ายออกไป เขาจะระเบิดฟอร์มทุกที่ที่เขาไป เขาเป็นกองหน้าระดับโลก เขา คือ ตำนาน และจะเป็นตำนานตลอดไป” คล็อปป์กล่าวปิดท้าย
#ดูบอลสดออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ฟรี #ดูบอลสด #ตางบอล #ตารางบอลสด #ผลบอลสด #หวยออนไลน์