Skip to content

ทำไมฟอร์ม “ชนาธิป” ถึงยังไม่ปังกับ “ฟรอนตาเล่”??

ถ้าใครชอบดูบอลสด หรือมีโอกาสได้ตามติดชีวิต “กัปตันทีมช้างศึก” คนปัจจุบันอย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ร่างเล็ก เจ้าของสถิติค่าตัวสูงที่สุดในการย้ายทีมในเจลีก

จะไม่แปลกใจเลยว่า ชนาธิป ก้าวมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าสูงสุดในชีวิต ถึงแม้ความฝันที่จะไปโลดแล่นดินแดนยุโรป จะลิบหรี่ และเป็นไปได้ยากมาก

แต่ถึงตอนนี้ ชนาธิป นั้นก็ได้ย้ายเข้าสู่ทีมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์ 1 ในลีกญี่ปุ่น กับความฝันของนักฟุตบอลคนนึงที่ต้องการไขว่คว้ามาตลอด

ถึงอย่างไรบทพิสูจน์ที่คนไทยทั้งประเทศ หรือแฟนบอลญี่ปุ่น กำลังจับตามองมาที่เจ้าเจ ว่าการที่เขาย้ายมาจะคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ทาง ฟรอนตาเล่ ยอมลงทุนซื้อเขามาอย่างมหาศาลหรือไม่ แต่กลับกันฟอร์มยังไม่เข้าที่เข้าทางกับทีมใหม่สักเท่าไร เป็นเพราะอะไร ลองมาวิเคราะห์กัน

ตารางบอลเจลีกล่าสุดหลังผ่านไป 3 เกม ชนาธิปมีโอกาสได้ลงตัวจริงทั้ง 3 นัด โดยเกมแรกเป็นศึก เจแปนนิส ซูเปอร์คัพ 2022(แชมป์ ชน แชมป์) ระหว่างแชมป์เจลีก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ พบกับ แชมป์เอ็มเพอเรอร์ส คัพ อูราวะ เรด ไดมอนส์ ซึ่งผลปรากฎว่าเป็นฝั่ง อูราวะ เรด ที่ชนะทางด้านแชมป์เจลีกไปอย่างสนุก 2-0

นัดนี้โค้ช โทรุ โอนิกิ กุญซือใหญ่ ฟรอนตาเล่ วางหมากให้ชนาธิปไปยืนทำเกมที่ริมเส้นซ้าย โดยตำแหน่งเก่าเป็นของ คาโอรุ มิโตะมะ ที่ย้ายไปไบรท์ตัน ในพรีเมียร์ลีกที่มีถ่ายทอดสด ผ่านทีวี ผ่านเว็ปไซค์ดูบอลสด ดูบอลสดออนไลน์ฟรี อยู่บ่อยครั้ง

ตั้งแต่เริ่มเกมไปจนถึง หมดเวลาครึ่งแรก ชนาธิป ไม่มีโอกาสได้ทำเกมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าใครได้ชมจะเห็นได้ว่าเขานั้นได้แค่เคาะบอลไปเรื่อย ๆ พอได้บอล ก็ทำได้แค่ส่งคืน โดยไม่มีโอกาสได้กระชาก หรือคิลเลอร์พาสที่เป็นจุดเด่นของเขาสักเท่าไร

โดยตำแหน่งที่เขาได้ไปยืนนั้น อาจจะไม่ถนัดสำหรับเจ้าตัว จึงยังทำผลงานออกมาไม่ดีกับการเปิดฉากเกมแรกกับทีมใหม่ แต่พอครึ่งหลัง โอนิกิ ปรับทัพย้าย ชนาธิป มาเล่นในตำแหน่ง ที่ตนเองถนัด ก็คือกองกลางตัวรุก ตำแหน่งที่เจ้าตัวเล่นอยู่กับซัปโปโร ทีมเก่าของเขา

รูปเกมดีขึ้นอย่างชัดเจน พอโยก เจ้าเจ มาเป็นตัวทำเกมรุกอิสระ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขาสามารถแทงบอลทะลุช่องผ่านกองหลัง อูราวะ ได้อย่างสบาย และมีโอกาสทำเกมสวย ๆ ได้หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถได้ประตู ในตอนนี้โค้ชเริ่มเล็งเห็นอะไรในตัว ชนาธิป บ้างแล้ว

เพราะเกมที่สอง เป็นการแข่งขันเจลีกนัดแรก ของฤดูกาลโดยพบกับ เอฟซี โตเกียว ซึ่งคราวนี้โค้ช โอนิกิ มาในแผนการเล่นเดิม 4-3-3 และได้ใช้ชนาธิปลงตำแหน่งที่เขาถนัดทันที

การเล่นของ ชนาคุง ดีกว่าเกมแรก แต่ด้วยทีมยังปรับจูนกันไม่ติด ก็ยังมีจังหวะขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าดีกว่านัดแรก เพราะด้วยรูปแบบตำแหน่งการเล่นที่ตัวเองถนัด

จึงทำให้อิสระการเล่นของ ชนาธิป นั่นเป็นตัวเองมากขึ้น และความมั่นใจก็มากขึ้นเช่นกัน แต่ก็ยังดีไม่พอกับความคาดหวังของใครหลายคน เพราะยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในฟอร์มการเล่นที่ยังไม่โดดเด่นนัก แต่นัดนี้ก็เก็บสามแต้มมาได้อย่างไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร

“นี่หรือทีมแชมป์เจลีก” คือคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ในโลกโซเชี่ยลได้คอมเมนท์

ต่อมาเกมที่ 3 ชนาคุงก็ได้รับโอกาสสตาร์ทเป็นตัวจริงเช่นเคย ซึ่งพบกับทีมเก่าของ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน โยโกฮามา เอฟ มารินอส รองแชมป์เจลีกปีที่แล้ว ซึ่งนัดนี้ชนาธิปก็ได้เล่นในตำแหน่ง กลางรุกต่อจากนัดที่ 2

แต่ฟอร์มนัดนี้ของชนาธิปเริ่มดูมีมิติการเล่นมากขึ้น เริ่มมีการต่อบอลเท้าสู่เท้าได้เนียนตา และดูมีความมุ่งมั่นมาก ๆ เพื่ออยากจะพิสูจน์ต่อหน้าแฟนบอล

โดยนัดนี้เขามีตั้งใจที่จะพยายามทำเกมให้มากขึ้น เล่นเป็นตัวเองให้มากขึ้น เพื่อให้ความกดดันตัวเองน้อยลง และมีการขยับพื้นที่ในการรับบอลจากเพื่อนได้ดีทีเดียว แต่สุดท้ายเขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงต้นครึ่งหลัง น่าจะขัดใจคนไทยหลาย ๆ คนเพราะคิดว่า ชนาธิป ยังมีส่วนร่วมกับเกมอยู่ แต่ก็แพ้ไปในที่สุดด้วยสกอร์ 4-2

หลังจากได้ชมฟอร์ม เจ้าเจ ทั้ง 3 เกม ก็จะพบได้ว่า ตำแหน่งถนัดของเขาจริง ๆ แล้ว ก็คือตัวกลางรุกอิสระที่สามารถเคลื่อนที่ไปสร้างสรรค์เกมในพื้นที่แดนบนร่วมกับศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติมบราซิล เจ้าของดาวซัลโวปีที่แล้วอย่าง ดามิเยา  

แล้วตำแหน่งตรงนี้ที่เจ้าเจ ได้รับมอบหมาย มันคือตำแหน่งเก่าที่ทำให้ฟอร์มของเขา โดดเด่นกับ ซัปโปโร และสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวอย่าง 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเจลีก ในฤดูกาลปี 2018

ซึ่งผมคิดว่าในหลายเกมที่ผ่าน ๆ มา โค้ช โอนิกิ น่าจะทดลองผู้เล่นหลาย ๆ คนในหลากหลายตำแหน่งซะมากกว่า จึงทำให้ฟอร์มของทีมในช่วงนี้ยังจูนกันไม่ติด แต่รูปแบบการเล่นของทีมก็ยังคงสไตล์เดิมโดยการพาสบอลไปเรื่อย ๆ

ถ้าเปรียบเสมือนทีมชั้นนำในยุโรปก็คือ แมนซิตี้ ดีๆ นี่เอง แต่คำถามที่หลายคนยังคงคาใจว่า ชนาธิป จะไปรอดไหม จะตกเป็นตัวสำรอง หรือไม่มีที่ว่างสำหรับทีมนี้

ในช่วงแรกตอนมาซัปโปโรใหม่ ๆ ชนาธิป ก็แบบนี้เลย ยังไม่โดดเด่น ยังคอยปรับตัวเองเข้ากับเพื่อนร่วมทีม ยังต้องสร้างจังหวะฟุตบอลให้มั่นใจในการเล่น ยังไม่กล้าที่จะพาบอลไปกับตัวเอง

ยังคงเกรงใจเพื่อน ๆ เพราะเขาก็คือเด็กใหม่สำหรับการย้ายมา และด้วยตำแหน่งที่ทางกราบซ้ายที่ยังหาคนมาแทนไม่ได้ แต่เขาต้องไปรับหน้าที่ตรงนั้น มันกดดันมาก ๆ เพราะคนเก่าทำไว้ดีมาก ๆ

แต่เชื่อเถอะว่า ตอนนี้ฟอร์มการเล่นกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ถึงจะยังไม่เฉิดฉายสุด ๆ แต่ได้เห็นการเคลื่อนที่ และโค้ชเริ่มเห็นในตัวเขามากขึ้น ชนาธิป ยังมีดีกว่าที่คิด ถึงตอนนี้อาจจะทำให้ผิดหวัง แต่ต่อ ๆ ไป เขาจะสามารถกลับไปอยู่ในฟอร์มที่ดีได้แน่นอน อยากขอให้ ชนาธิปของเรา กลับมาสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง

จะไม่แปลกใจเลยว่า ชนาธิป ก้าวมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าสูงสุดในชีวิต ถึงแม้ความฝันที่จะไปโลดแล่นดินแดนยุโรป