“ในยุค 90s ผมว่าหลายคนคงเคยสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ กด R1 ค้างให้จอยไหม้ ลากบอลเข้าตุงตาข่ายกันไปยาว ๆ นั่นคือ เกมวินนิ่ง”
ในช่วงนั้นที่พอจำได้ เด็กทุกคนจะไม่ได้มีเกมเพลย์สเตชั่นเป็นของตัวเอง “ร้านเกม” จึงกลายเป็นแหล่งรวมพลของวัยรุ่นในยุคนั้น ที่ต้องการเข้ามาท้าทาย ช่วงชิงอำนาจความเป็นเบอร์หนึ่งเกมฟุตบอล “วินนิ่ง” ในกลุ่มแก๊งของตัวเอง
การมารวมตัวกันที่ร้านเกม เพื่อท้าดวลวินนิ่ง มีทั้งการเดิมพันแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง ตลอดจนเรื่องของศักดิ์ศรีในกลุ่มเพื่อน วลีคำว่า “วินนิ่งไหมสาด” จึงกระจายไปทั่ว และถูกแต่งเป็นเพลงล้อเลียนขึ้นมามากมาย
หากทีมของคนแพ้ ตั้งกฎโน้นนี่เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบ ห้ามใช้ทีมนั้นทีมนี้บ้างแหล่ะ ห้ามเอาตัวเทพลง ห้ามทำชิ่งวันทู ซึ่งในวินนิ่งภาคก่อน ๆ ถ้าใครชอบใช้ตัวสปีด 9 คงจะรู้ดีว่ามันเพลินแค่ไหนในการทำชิ่งแล้วหลุดเข้าไปยิงแบบสบายใจ
มันเลยเกิด 2 คู่หู ที่เด็กสมัยนั้นจะใช้กันบ่อยที่สุด “โรนัลโด้ กับ คาร์รอส คือคู่กองหน้าที่ดีที่สุดในเกมนี้”
ท็อปสปีด 9 ไม่มีใครรับมือไหวแน่นอน ดมตูดกันไปดิ แค่นั้นยังไม่พอ ค่าพลังพาวเวอร์ 9 อีก ยิงครึ่งสนามเหรอ ? เรื่องจิ๊บ ๆ แค่ปรับองศาให้ดี กดสี่เหลี่ยมค้างสักครึ่งหลอด ตรงเป็นตุง
ส่วนฟิลลิ่งร้านเกมสมัยนั้น เมื่อเดินเข้าไปสิ่งที่ต้องพบเจอ คือ ทุกเครื่องในร้านมีแต่คนเล่นเกมนี้ แค่นั้นยังไม่พอ ต้องรอคิวเล่นเป็นชั่วโมง ตามมาด้วยจอยที่พังอย่างบ่อย แถมลื่นมาก เช็ดแล้วเช็ดอีก และสุดท้ายถ้าแพ้ก็โทษจอย แค่นั้น
#ดูบอลสดออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ฟรี #ดูบอลสด #ตางบอล #ตารางบอลสด #ผลบอลสด #หวยออนไลน์