GOAL!! เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาที กังหันสีส้ม ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ดาวี่ คลาสเซ่น แตะบอลให้ โคดี้ กัคโป ซัดเต็มข้อด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปตุงตาข่ายแบบหมดจด ทำให้ เนเธอร์แลนด์ ออกนำเร็ว 1-0

นาที 32 เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย เลี้ยงบอลจากฝั่งซ้าย ก่อนตัดเข้าใน แล้วสับไกหน้ากรอบเขตโทษ ทว่า อันดรีส นอปเพิร์ต ยังพุ่งปัดบอลเอาไว้ได้

ข่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก นาที 45+3 เอกวาดอร์ พลาดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ เพอร์วิส เอสตูปิญาน เปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินชี้ว่า แจ็คสัน โปโรโซ่ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ไปรบกวนการมองเห็นของ อันดรีส นอปเพิร์ต ทำให้ถูกจับเป็นจังหวะล้ำหน้าไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งเวลาแรก เนเธอร์แลนด์ จึงยังคงนำ เอกวาดอร์ อยู่ 1-0

GOAL!! กระทั่ง ครึ่งหลัง นาที 49 เอกวาดอร์ ก็ตามตีเสมอจนได้ เพอร์วิส เอสตูปิญาน ยิงไปติดเซฟของนายด่านเนเธอร์แลนด์ ทว่าบอลกลับมาเข้าทาง เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ได้ตามซ้ำเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

จากนั้น นาที 59 กอนซาโล่ พลาต้า ได้โอกาสตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลผ่านมือ อันดรีส นอปเพิร์ต ไปแล้ว แต่กลับพุ่งไปชนคานเข้าอย่างจัง

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้ง 2 ทีม ผลัดกันเป็นฝ่ายครองเกม แต่สุดท้ายก็ไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เสมอกับ ทีมชาติเอกวาดอร์ ไปด้วยสกอร์ 1-1 ต้องแบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ทั้งคู่มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม จาก 2 นัด ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอร่วมกัน พร้อมส่งให้เจ้าภาพ กาตาร์ ตกรอบไปเป็นทีมแรกในศึกฟุตบอลโลกหนนี้

จบเกม เนเธอร์แลนด์ 1-1 เอกวาดอร์