นาทีที่ 10 แคนาดา มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ ทาจอน บูชานาน ยิงไปติดแขนของ ยานนิค คาร์ราสโก้ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไปดู VAR แล้วให้จุดโทษกับ แคนาดา แต่ทว่า อัลฟอนโซ่ เดวิส กลับสังหารพลาดไปติดเซฟของ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ทำให้พลาดได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย

แต่กระนั้น ยังคงเป็น แคนาดา ที่โหมเปิดเกมรุกเข้าใส่ เบลเยียม อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้ง โดยนาที 30 อลิสแตร์ จอห์นสตัน ได้ซัดเต็มข้อในเขตโทษ แต่นายด่านเบลเยียมก็ยังเซฟเอาไว้ได้

แต่แล้ว นาที 44 กลับกลายเป็น เบลเยียม ที่ได้ประตูขึ้นนำ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ วางบอลจากแดนหลังขึ้นหน้า แล้วเป็น มิชี่ บัตชูอายี่ ที่ยิงตามน้ำด้วยซ้ายแบบไม่จับ บอลพุ่งตุงข่ายไปแบบหมดจด ทำให้ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ออกนำ 1-0 และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้

ช่วงต้นครึ่งหลัง กลายเป็น เบลเยียม ที่เริ่มตั้งหลัก และครองบอลได้มากขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกม แคนาดา ก็กลับมาเปิดเกมรุกเข้าใส่ เบลเยียม ได้อีกครั้ง

นาที 80 ไคล์ ลาริน ตัวสำรองของ แคนาดา ได้จังหวะโหม่งเปลี่ยนทางในเขตโทษ ทว่า ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ก็ยังพุ่งรับไว้ได้

จากนั้น แม้ว่าทั้ง 2 ทีม จะสร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์เพิ่มได้ แต่ก็ไม่มีจังหวะไหนใกล้เคียงกับการเป็นประตู

ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน เป็น ทีมชาติเบลเยียม ที่เฉือนชนะ ทีมชาติแคนาดา ไปด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 คะแนน ทำให้ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม พร้อมส่งผลให้ แคนาดา หล่นลงไปรั้งบ๊วยของตาราง