นี่มันต้องเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร” คือบทสัมภาษณ์ของ รอย ฮอดจ์สัน หลังคุมทัพพาลูกทีมเอาชนะ ยูเวนตุส ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-4
ต้องย้อนกลับไปในปี 2008/09 ที่สโมสรฟูแล่มจบอันดับที่ 7 มี 53 แต้มในตารางฟุตบอลสดของลีกอังกฤษ จึงทำให้ได้สิทธิ์ไปเล่นรอบคัดเลือก ฟุตบอลถ้วยยุโรปถ้วยเล็ก คือ “ยูโรป้า”
ต่อมาทีมอย่างฟูแล่มก็ชนะรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ จนได้เข้ามาอยู่รอบแบ่งกลุ่ม โดยมี โรม่า และบาเซิ่ล 2 ทีมที่เคยไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้วอยู่ในกลุ่มด้วย
แต่ทว่า ฟูแล่มก็เข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ โดยเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ไปเจอกับ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ยอดทีมจากยูเครนในรอบ 64 ซึ่งก็เป็นฟูแล่มที่เขี่ยทีมจากยูเครนได้
พอเข้ามารอบต่อไป รอบ 32 ทีม ฟูแล่มจับฉลากมาพบกับยอดทีมของโลก ที่ในตอนนั้นใคร ๆ ก็คิดว่า พวกเขาหยุดอยู่ที่รอบนี้ซะแล้ว
เพราะในขณะนั้นทีมอย่างยูเวนตุส มีเจ้าของบัลลังดอร์ อย่างฟาบิโอ คันนาวาโร่ คุมแดนหลังอยู่ และมีนักเตะระดับโลกมากมาย เช่น เดล เปียโร่ , ดาวิด เทรเซเก้ต์ , คิเอลลินี่ และ คันนาวาโร่
ก็เป็นไปอย่างที่สื่อต่าง ๆ ได้บอกจริง ๆ เพราะในนัดแรกนั้นที่เตะกันที่ สนามของยูเวนตุส ผลปรากฎว่า เป็นยูเวนตุสที่สามารถชนะไปก่อน 3-1 ทำให้อาจดับฝันของฟูแล่มลงได้
พอเข้าสู่นัดที่สอง ที่ยูเวนตุสต้องมาเยือน สนาม “เครเวนคอตทิจ” ของสโมสรฟูแล่ม โดยเริ่มเกมมาไม่ถึง 2 นาทีเป็นยูเวนตุสออกนำไปก่อน 1-0 จึงทำให้สกอร์รวมตอนนี้ม้าลายนำออกไป 4-1 ถ้าดูจากสกอร์ใคร ๆ ก็บอกว่า จบแล้วฟูแล่ม แล้วการคัมแบ็คกลับมานั้นยากมากเพราะนี่คือยูเวนตุส
แต่ฟุตบอลลูกกลม ๆ อะไรก็เกิดขึ้น ฟูแล่มมาได้ผระตูตีไข่แตกในนาทีที่ 10 จากกองหน้าชาวอังกฤษ “บ็อบบี้ ซาโมร่า” ยิงเข้าไป เป็นประตูสร้างความหวังให้ทีมถ้านับลูกได้เสียก็ 4-2
จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมคือตรงนี้ก็ว่าได้ เพราะกองหลังทีมชาติอิตาลี คันนาวาโร่ โดนใบแดงไล่ออกไปในนาทีที่ 27 ทำให้ฟูแล่มเริ่มเปิดเกมบุก และก็ทำได้สำเร็จ ฟูแล่มยิงขึ้นนำ 2-1 จาก เกร่า และมาได้จุดโทษในครึ่งหลัง ทำให้สกอร์ตอนนี้อยู่ที่ 3-1
ซึ่งสกอร์เท่ากับเกมแรก ถ้าจบลงเพียงเท่านี้ต้องเล่นต่อเวลาพิเศษ แต่มันไม่เป็นแบบนั้น ฟูแล่มได้สร้างประวัติศาสตร์การคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร และเขี่ยยอดทีมของโลกอย่างยูเวนตุสตกรอบ แบบเซอไพร์สคนทั้งโลก
ด้วยการที่ในนาที่ 82 ก่อนหมดเวลาอีก 8 นาที เดมป์ซี่ย์ กองกลางชาวอเมริการับบอลมาจะทำท่าเปิด แต่เขากลับชิพข้ามหัวประตูเข้าไปอย่างสุดสวย และชาญฉลาดของเขา ทำให้จบเกมฟูแล่มชนะ 4-1 สกอร์รวม 5-4
ปาฎิหาริย์ที่ “เครเวนคอตทิจ” ได้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วน่าเสียดายที่สโมสรอย่างฟูแล่มทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ตราหมี “แอตฯ มาดริด” แล้วพ่ายไป 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ไม่งั้นสโมสรจะได้ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยุโรป ที่พวกเขาได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก
#ดูบอลสดออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ #ดูบอลออนไลน์ฟรี #ดูบอลสด #ตางบอล #ตารางบอลสด #ผลบอลสด #หวยออนไลน์
