ต้องเกริ่นก่อนว่า ความเรียบง่ายของฟุตบอล แค่เรามีลูกฟุตบอลเพียงลูกเดียวก็สามารถเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่ที่เล่นแล้วสิ่งรอบข้างเกิดความเสียหาย
การเตะเล่นฟุตบอลโกลรูหนูก็เช่นกัน แค่เอาประตูเล็ก ๆ 2 อัน แล้วก็ลูกฟุตบอลอันนึง แล้วก็หาเขตออกข้าง และออกหลัง หรือไม่ก็ ถ้าพื้นที่มันเล็กก็เล่นแบบไม่มีลูกออกก็ได้
แต่ถ้าไม่มีประตูโกลหนูละ ก็สามารถหาอะไรมาวางแทนก็ได้เหมือนกันนะ เช่น เอารองเท้ามาวาง หรือเอาก้อนหิน หรืออะไรก็ได้มาตั้งไว้แล้วเว่นระยะห่างสักหน่อยไม่ต้องใหญ่มาก เพื่อมาสร้างเป็นประตูเอา สามารถประยุกต์ได้หมด ขอแค่มีลูกฟุตบอลอีกนั่นแหละ !
การเล่นโกลรูหนูส่วนมากแล้วจะไม่จำกัดคน มีแค่ไหนเล่นแค่นั้น สมมุติมี 4 คน ก็ข้างละ 2 คน สมมุติมี 20 คน ก็ข้างละ 10 ยังมีมาแล้ว คนเล่นก็จะยั่วเยียะในสนาม แต่ถ้ามันเยอะเกินไป ก็แบ่งเป็น 3 ทีม แล้ววนสลับกันเล่น
บางคนคิดว่า โกลมันก็เล็กจะยิงเข้ากันได้ยังไง ซึ่งกติกามันก็มีนะ ถ้าใครไปยืนเป็นประตู ห้ามเอาตัวบังแบบนั่งหรือนอนบังมิด ให้แค่เอาขากันประตูเท่านั้น ซึ่งมันเหมือนจะเข้ายากนะ แต่พอไปเล่นจริง ๆ ถ้ายิงบอลดี ๆ ก็เข้าได้ง่าย ๆ เช่นกัน
มันได้ฝึกทักษะในการเล่นพื้นที่แคบ ๆ ด้วยนะ เพราะฟุตบอลโกลรูหนูไม่จำเป็ฯต้องใช้พื้นที่เยอะ แค่คุณรับส่งบอลกับเพื่อน ก็ไปถึงหน้าประตูอย่างรวดเร็ว ส่วนมากจะเล่นกับพื้นสนามแบบปูนมากกว่าแบบหญ้า
และจะแบ่งแยกสีเสื้อกันได้อย่างไร?? ก็ถ้าฝั่งไหนยิงเข้าก่อน อีกฝั่งก็ต้องถอดเสื้อเล่น ถ้าไม่อยากถอดเสื้อ ลูกแรกต้องรีบยิงให้เข้า
เสน่ห์ของมันไม่ได้อยู่ที่การเอาชนะกัน แต่มันอยู่ที่มิตรภาพหลังจบมากกว่า เพราะบางคนมาเตะก็ไม่ได้รู้จักกัน บางคนเดินมา “ผมขอเตะด้วยได้ไหม” พอเตะเสร็จแล้วนั้น “พรุ่งนี้เวลาเดิมนะครับ” ผมว่าเสน่ห์ของมันก็คือ ความสวยงามของฟุตบอลที่ช่วยให้ลืมความทุกข์ได้ เวลาหลังเลิกงาน เครียด ๆ เหนื่อย ๆ พอได้แค่มาเตะบอลก็ลืมเรื่องพวกนั้นไปทันที เชื่อผมสิ … ผมเคยรู้สึกแบบนั้น