“วินนี่ เขามายืนบังผมอยู่ในจังหวะที่รอเตะฟรีคิก เขาบีบลูกอันฑะผม ทำผมร้องเสียงหลงด้วยความทรมาน แต่ดันไม่มีใครรู้ซะงั้น”
วินนี่โจนส์ บีบไข่ พอล แกสคอยน์
ไอ้โรคจิต วินนี่ โจนส์ กับ อัจฉริยะขี้เมา พอล แกสคอย ซึ่งแต่ก่อนถ้าใครได้ดูเจ้าสองคนนี้ ที่สมัยนั้นอาจยังไม่มีบอลสดออนไลน์ หรือดูบอลสดฟรี ก็ต้องดูผ่านทีวีเอา ซึ่งสองคนนี้แตกต่างกันทั้งฝีเท้า และความสามารถ แต่กลับเป็นนักเตะที่น่าจดจำมาก คนนึงโรคจิตทั้งหน้าตา และการกระทำ ส่วนอีกคนนึงดูทรงแล้วไม่น่าเล่นบอลเก่ง แต่ก็ไปรอดด้วยกันทั้งคู่
นักเตะโรคจิตของแท้ มีโปรไฟล์เป็นนักเตะที่โดนใบเหลืองเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ โดยใช้เวลาเพียง 5 วินาที และความโหดของเขาไม่ได้มีอยู่แค่ในสนาม เขาเคยกระโดดกัดจมูกนักข่าวมาแล้วในปี 1995 ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับวงการลูกหนัง และมุ่งหน้าสู่วงการบันเทิงในเวลาต่อมา
นักเตะที่ถูกขนานนามว่าเก่งที่สุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ เรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะเลยทีเดียว เขาเป็นกองกลางประเภทวิ่งน้อย เน้นเก็บบอล เปิด จ่าย เล่นฟุตบอลได้มีคลาส จ่ายบอลฉลาด ได้เปรียบ พลิกบอลไว ทักษะฟุตบอลดี
ผมรู้สึกแย่มากก่อนลงสนาม ผมเคยได้ยินกิตติศัพท์ของวินนี่มาบ้าง เขาดูตัวโตมาก ก่อนเกมส์เริ่มผมได้รับความสนใจจากพวกตากล้องในสนาม แล้วโจนส์ก็เดินเข้ามาหา และบอกว่า
“ข้าคือ วินนี่ โจนส์ และข้าคือ ฟัก (กลิ้ง) ยิปซี วันนี้มีแค่นายกับฉัน เจ้าอ้วน แค่นายกับฉันเท่านั้น”
เขาเตะผมตลอดทั้งเกม ขนาดตอนออกไปทุ่มบอลไกลข้างสนาม เขายังกระซิบบอกผมก่อนว่า … เดี๋ยวพี่จะออกไปทุ่มบอล แต่พี่กลับมาแน่ !
“โจนส์ เขามายืนบังผมอยู่ในจังหวะที่รอเตะฟรีคิก เขาบีบลูกอันฑะผม ทำเอาผมร้องเสียงหลงด้วยความทรมาน แต่ดันไม่มีใครรู้ ช่างภาพคนหนึ่งดันถ่ายเอาไว้ได้ เขาคงรับทรัพย์เละเลย เพราะมันกลายเป็นหนึ่งในภาพกีฬาลูกหนังที่โด่งดังที่สุดไปแล้ว”
จากนั้นเรื่องยังไม่จบ หลังจบเกม แกสคอยน์ ได้ส่งดอกกุหลาบสีแดงไปให้กับ วินนี่ โจนส์ ว่าเขาไม่ได้โกรธอะไร และอยากเห็นมุมหวาน ๆ ของจอมโหดอย่าง โจนส์ บ้าง
ส่วน โจนส์ ก็ไม่นิ่งเฉย ส่งของกลับมาให้กับ แกสคอยน์ เหมือนกัน โดยหลังจากได้ดอกกุหลาบ โจนส์ ก็ส่งแปรงขัดส้วมกลับมาให้ แกซซ่า ประมาณว่า
“มึงอย่าคิดว่าจะได้เห็นมุมมุ้งมิ้งจากกรู”
ทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ทุกวันนี้ยังหาใครมาแทนสองคนนี้ไม่ได้แล้ว…
